14 ข้อควรรู้ Road Trip ถูกใจที่ Iceland!!

5594 จำนวนผู้เข้าชม |

14 ข้อควรรู้ Road Trip ถูกใจที่ Iceland

วันนี้ Mellow Rent Coats จะมาพาไปดูข้อควรรู้เมื่อจะไป Road Trip ที่ไอซ์แลนด์กันนะคะ เรามาเริ่มกันเลยค่ะ

1. ภูมิอากาศและฤดูกาล

ประเทศไอซ์แลนด์มีทั้งหมด 4 ฤดูกาลด้วยกันคือ

ฤดูหนาว พย.-มีค. โดยเฉลี่ม มค.จะเป็นช่วงที่หนาวที่สุด อุณหภูมิต่ำสุดคือติดลบต้นๆ คือ -3ถึง -5 องศาเป็นฤดูที่เหมาะกับการชมแสงเหนือมากที่สุดเพราะมีช่วงกลางคืนที่ยาวนาน
ฤดูใบไม้ผล เมษ.- พค. โดยเฉลี่ยนอยู่ 6- 10 องศา
ฤดูร้อน มิ.ย - สค โดยเฉลี่ยนอยี่ 12 -14 องศา ช่วงที่กลางวันยาวนานกว่ากลางคืน นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชมพระอาทิตย์เที่ยงคืนนั้นเองค่ะ
ฤดูใบไม้ร่วง กย. – ตค. โดยเฉลี่ยนอยู่ 6- 10 องศา

2. เขตเวลา ประเทศไอซ์แลนด์ใช้เขตเวลา UTC+0 ส่วนไทยเรา UTC+7 หมายความว่าไอซ์แลนด์ช้ากว่าเรา 7 ชมนั้นเองค่ะ บินไปไอซ์แลนด์ควรเผื่อเวลาพักสักนิดนะคะ เผื่อ jet lag นะคะ

3.ไอซ์แลนด์ใช้ระบบไฟฟ้าแบบ 220V นะคะ แต่ปลั๊กเป็นแบบกลม อย่าลืมติดตัวแปลงมาด้วยนะคะ

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปลั๊กไฟประเทศต่างๆ ดูได้จาก เตรียมไว้ก่อน...ไม่มีพลาด : ปลั๊กไฟและกำลังไฟของแต่ละประเทศ

4. สถานกงสุลไทยในไอซ์แลนด์ จดเบอร์ไว้นะคะ (+354) 823 2676 เปิดทุกวันธรรมดา 09.00-17.00 น. นะคะ http://konsull.is

5. สกุลเงิน ไอซ์แลนด์มีสกุลเงินของตัวเองคือ Iceland Krona เรียกว่า ไอซ์แลนด์โครนา เวลาที่เราไปแลกเงินจะใช้ชื่อย่อว่า ISK นะคะ แต่ถ้าเราไปซื้อสินค้าที่ไอซ์แลนด์ตามป้ายต่างๆ จะย่อว่า Kr หรือ ikr

แบงค์หรือธนบัตรจะมี 500 1000 2000 5000 10000 โครนา

เหรียญ 1 5 10 50 100 โครนา

ด้วยว่าอย่างที่บอกไปคือเป็นสกุลเงินที่ใช้ประเทศเดียว ดังนั้นควรแลกเท่าที่จำเป็นต้องใช้นะคะ เพราะหาแลกยาก เรทแลกแพง แอดมินแนะนำให้แลกเงินไทยเป็นยูโร และนำเงินยูโรไปแลกเป็นไอซ์แลนด์โครนา ที่ไอซ์แลนด์ดีกว่านะคะ เพราะง่ายและคุ้มกว่ามากค่ะ

*** Krona เป็นเอกพจน์ Kronur เป็นพหูพจน์ นะคะ เพราะฉะนั้นถ้าไปเจอ 2 คำนี้ก็ความหมายเดียวกันนะคะ บอกไว้ก่อนจะได้ไม่ตกใจทีหลังค่ะ

6. Sim โทรศัพท์ สามารถซื้อได้ทั้งจากที่ไทย คือที่ AIS และ TRUE นะคะ หรือจะมาซื้อซิมที่ไอซ์แลนด์ก็ได้ค่ะ ในกรณีที่จะมาซื้อที่ไอซ์แลนด์ให้ซื้อที่สนามบินเลยนะคะ

7. ถนนในIceland สำหรับใครที่วางแผนจะมาขับรถเที่ยวนั้นไม่รู้ก็คงไม่ได้นะคะ ที่ไอซ์แลนด์มีทางหลวงสายหลักคือ หมายเลข 1 เส้นนี้จะวนรอบเกาะมีระยะทาง 1332 กม. นะคะ หรือที่เรารู้จักกันว่า Ring Road เส้นที่รองลงมาคือ 2 3 และ 4 ซึ่งถนนที่เป็นหมายเลข 1 และ 2 จะเป็นเส้นราดยางอย่างดีนะคะ ถนนที่ไอซ์แลนด์เป็น 2 เลนส์คือไป 1 เลน กลับ 1 เลน ไม่มีเกาะกลาง นอกจากนี้ไอซ์แลนด์ยังมีถนน F-Road หรือ Higland Road เราจะเห็นป้ายหรือบน GPS ขึ้นว่า F905 เป็นต้นนะคะ ซึ่งถนนF Road นี้จะเป็นเส้นทางที่ตัดไปสู่พื้นที่ห่างไหล พื้นที่สูง นั้นแปลว่าจะเป็นเส้นทางกรวด หินหยาบ อาจต้องขับผ่านลำน้ำ (ให้นึกถึงโฆษณารถยนต์ที่ขับผ่านลำธารประมาณนั้นเลยค่ะ) ดังนั้นนะคะ ถ้าทริปที่จะเดินทางไป มี F-Road ต้อง ย้ำว่าต้องนะคะเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น และต้องศึกษาเส้นทางอย่างละเอียดด้วยนะคะ ถ้าไม่มั่นใจให้ซื้อ Local Tour เอานะคะ

ดูเส้นทาง Road Trip ยอดนิยมได้จากบทความ Iceland Roudtrip

8. ป้ายบอกทาง มี 2 แบบคือ

ป้ายบอกหมายเลขถนน คือป้ายที่เป็นสีเหลือง โดยข้อความในป้ายคือ

ขวาสุดคือ ระยะทางไปยังปลายทาง

ตรงกลาง คือชื่อเมืองที่จะมุ่งหน้าไป

ซ้ายสุด หรือตัวเลขในกรอบสี่เหลี่ยมคือ หมายเลขถนน

แบบที่ 2 คือ ป้ายชี้บทางเข้าสถานที่ พื้นป้ายเป็นสีขาว กรอบแดง

ขวาสุดคือ ถ้ามีตัวเลขคือบอกระยะทางไปยังปลายทาง

ตรงกลาง คือชื่อเมืองหรือสถานที่

ซ้ายสุด คือเครื่องหมายที่แสดงว่าสถานที่นั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยว หรือ จุดที่น่าสนใจนั้นเองค่ะ

ที่มา https://en.wikipedia.org/wiki/Road_signs_in_Iceland

9. กฎจราจรพื้นฐาน

ใบขับขี่ของไทยสามารถใช้ได้เลย แค่ต้องมีภาษาอังกฤษกำกับนะคะ
การขับต้องชิดด้านขวาเสมอ (ฝั่งตรงข้ามกับไทยเรานั่นเองค่ะ สมองต้องทำงานดีๆ นะคะ มันจะงงๆ ตอนช่วงออกตัว และถ้าถนนโล่งไมมีรถให้ดูเป็นต้นแบบ 555+)
ต้องเปิดไฟหน้ารถ ท้ายรถตลอดนะคะ ถ้าใช้โหมดอัตโนมัตินะคะ
ในเมืองจำกัดความเร็ว 50 กม./ชม. เขตชุมชม 30 กม./ชม. ถนนนอกเมือง 90 กม./ชม.
เครื่องหมายจราจร https://en.wikipedia.org/wiki/Road_signs_in_Iceland

10. การจอดรถ ห้ามจอดรถริมถนนสายหลักเด็ดขาดเลยนะคะ เพราะถนนที่นั่นแคบมากและควรจอดในที่พักรถที่ถูกเตรียมไว้ให้เท่านั่นนะคะ เนื่องจากว่าไอซ์แลนด์เป็นประเทศที่ลมแร๊งแรงนะคะ ดังนั้นแล้วควรจอดรถหันหน้าทางทิศลมนะคะ แล้วก็ถ้าตอนที่เราเปิดประตูรถแล้วลมแรงนะคะเทคนิคคือเปิดรถมือนึง ออกแรงประคองช่วยอีกมือนึงตรงขอบประตูนะคะ

11. ปั้มน้ำมัน มีทั้งแบบที่มีพนักงานซึ่งจะเปิดปิดตามเวลาในแต่ละสถานที่ไม่เท่ากันและมีแบบอัตโนมัตินะคะซึ่งจะเปิด 24 ชม นั้นเองค่ะ

12. ในการวางแผนการเดินทาง หลีกเลี่ยงไมได้ที่จะต้องวางแผนเอาปั้มน้ำมันเข้าไปด้วยนะคะ ข้อมูลก็ตามนี้เลยค่ะ

N1 www.n1.is

Olis และ OB www.olis.is

ORKAN www.orkan.is/orkan/orkustodvar

***เลือกเป็นภาษาอังกฤษเอานะคะ ค้นหาตำแหน่งของปั้มน้ำมันและบันทึกไว้เลยค่ะ

13. การเติมน้ำมัน ทำไมต้องพูดถึงเรื่องนี้ก็เพราะว่าปั้มน้ำมันที่ไอซ์แลนด์ที่เปิด 24 ชมนั้นเป็นปั้มน้ำมันที่ต้องเติมด้วยตัวเอง และคนไทยเรานั้นก็เคยชินกับการเติมแบบที่มีพนักงานเติมให้นะคะ ดังนั้นแอดมินจะมาบอกขั้นตอนการเติมน้ำมันให้ทราบกันนะคะ ไปทีละขั้นกันเลยค่ะ

1. เลือกภาษาที่หน้าจอ แล้วเสียบบัตรเครดิต / เดบิต หรือ Prepaid card สำหรับบัตรเครดิต / เดบิตต้องใส่เลขpin 4 หลักด้วยนะคะ จะมีปุ่มกดด้านล่าง

2. แตะเลือกจำนวนที่ต้องการเติม

3. แตะเครื่องหมายเลขหัวจ่าย ดูเลขได้ที่ตัวเลขด้านบนหัวจ่ายที่เราจะเติม

4. ดึงบัตรออก

5. สังเกตชนิดน้ำมันก่อนเติมนะคะ อย่าเติมผิดเชียวน้า หยิบหัวจ่ายใส่ช่องเติมและบีบหัวจ่ายค้างไว้ ถ้าไม่มีแรงก็ 2 มือบีบนะคะ จะมีกลิ่นน้ำมันติดมือนิดๆ มีกระดาษทิชชูเปียกเช็ดก็จะดีนะคะ

6. ตู้จะตัดอัตโนมัตินะคะ เราก็แค่เก็บหัวจ่ายเข้าที่

7. ถ้าจะเอาใบเสร็จก็เสียบบัตรอีกครั้งแล้วเลือกพิมพ์ แต่ถ้าไม่รับก็ข้ามไปเลยค่ะ เป็นอันว่าเสร็จค่ะ

14. บัตรเครดิต ที่สามารถใช้ได้ที่นี่คือ Visa และ Mastercard นะคะ ส่วนอันอื่นนั้นแนะนำให้โทรถามธนาคารในเรื่องของข้อจำกัดเอานะคะ

จบไปแล้วกับ 14 ข้อควรรู้ Road Trip ถูกใจที่ Iceland นะคะ ใครเตรียมตัวไปไอซ์แลนด์ก็อย่าลืมเตรียมเรื่องเสื้อกันหนาว เสื้อโค้ทไปด้วยนะคะ อย่าลืมว่าหน้าร้อนของไอซ์แลนด์นั้นจะเป็นหน้าหนาวของไทยเลยก็ว่าได้นะคะ ก็ประเทศเค้าอยู่จะขั้นโลกแล้วนะคะ ร้อนเค้าหนาวเราเลยนะคะ ใครที่กำลังเล็งๆ เช่าเสื้อกันหนาว เช่าเสื้อโค้ท เช่าเสื้อขนเป็ด รองเท้าบูท หรือขาดเหลืออะไร มาที่ Mellow Rent Coats ได้เลยค่ะ มาทีเดียวครบ จบ ในทีเดียวเลยค่ะ แถมยังเดินทางง่ายเพราะติด BTS เน้นว่าติด BTS เลยค่ะ มาลองก็ง่าย มาเช่าก็ง่าย มารับ มาคืนก็ง่ายสะดวกมากๆ เลยนะคะ แอดมินขอให้รายละเอียดร้านที่ด้านล่างไว้นะคะ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ